วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552

ว่าด้วยเรื่อง ของที่ชอบ





ก่อนอื่นเลย ต้องขอสวัสดีเพื่อนๆที่แวะเข้ามารับชม บล็อกของเรานะ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เข้าเรื่องกันเลยละกัน

ถ้าจะพูดถึงของที่เราชอบหรอ ก็ มีหลายอย่างนะ แต่ที่รู้สึกชอบที่สุดก็คงเป็น เครื่องบิน ละ

แหม..แต่จะให้ชอบเครื่องบินเฉยๆก็คงไม่น่าสนใจเท่าไร แต่เครื่องบินที่เราชอบนั้น


มันเป็นพวก เครื่องบินรบ ละ วู้ววว น่าสนใจใช่ไหมละ เอาละวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ

ได้ไปทำความรู้จักกับเครื่องบินรูปแบบต่าง ที่ มันได้ไปปรากฏตัวในหนังที่ทุกคนรู้จักในชื่อเรื่องที่ว่า
"TRANSFORMER" นั้นเอง




เอาละ...เรามาเริ่มกันด้วยฉากแรกเลย ยังจำกันได้ไหม ในฉากเริ่มแรกเลย มีเครื่องบินใบพัดใหญ่ๆสองลำกำลังลำเลียงทหารอยู่ เจ้านี่มันมีชื่อว่า "V-22" วู้ววววววว เจ้านี่มันไม่ธรรมดานะ เวลามันบิน มันจาบินแบบเครื่องบิน (- -a ก็มันเป็นเครื่องบินนี่หว่า) แต่เวลาที่มันบินขึ้นลงจะเป็นแบบ เฮลิคอบเตอร์ ว้าวววววว....สุดยอดดดดด เราจะเรียกเครื่องบินแบบนี้ว่า tiltrotor ละ แต่จะบอกว่า ลำนี้มันแพงมากเลยละ 60 ล้านเหรียญ - -









ฉากต่อไป ยังจำกันได้ไหม เจ้าเฮลิคอบเตอร์ ที่เป็นฝ่ายผู้ร้ายอะ เจ้านั้นมีชื่อว่า
MH-53 ของกองทัพอากาศสหรัฐนั้นเองครับ โดยภารกิจของมันส่วนใหญ่จะใช้ในหน่วยรบพิเศษ และ ภารกิจประเภท CSAR นั้นคือมันจะบินไปรับนักบินที่ถูกยิงตกพร้อมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษนั้นเองแหละ




อะละมาดูลำต่อไปกันดีกว่า จำเครื่องบินลำที่บินไปสำรวจก่อนตอนฉากที่เป็นทะเลทรายกันได้มะ จะบอกว่าลำนี้พิเศษสุดๆ เลยละ มันมีชื่อว่า MQ-9 Predator B ลำนี้เป็นเครื่องบินแบบไร้คนขับ หรืออีกชื่อก็คือ UAV ด้วยรูปร่างที่เรียวเล็กและการบินได้เพดานบินที่สูง มันจึงสามารถบินได้นานมากกกกก และยังถูกตรวจจับยากอีกตังหาก ดังนั้น ภารกิจหลักของมันคือการสอดแนมนั้นเอง






เอาละลำต่อไปคือ E-3 Sentry AWACSE-3 ลำนี้คือเรด้าห์ลอยฟ้าครับ เป็นศูนย์บัญชาการลอยฟ้าที่จะควบคุมปฏิบัติการทางอากาศของเครื่องบินขับไล่ทั้งหมด สามารถระบุตำแหน่ง ชี้เป้าหมาย ไปจนถึงนำทางเครื่องบินขับไล่เข้าโจมตีเป้าหมายโดยเครื่องบินขับไล่ทำแค่กดยิงอาวุธเท่านั้น ในยุทธวิธีทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐนั้น E-3 สำคัญมากครับ ด้วยความสำคัญของมันจึงทำให้ราคาของมันแพงระยับ ด้วยราคา 300 ล้านเหรียญ





ในฉากที่ทหารสหรัฐกำลังต่อสู้กับหุ่นยนต์ในทะเลทหารอยู่นั้น จะเห็นเครื่องบินสองลำกราดปืนกล จรวด เข้าใส่หุ่นยนต์ต่างดาว เครื่องบินลำนั้นก็คือ A-10 Thunderbolt II นั้นเอง เจ้านี่จะบอกว่า เป็นเครื่องบินตั้งแต่ยุคสงครามเย็นแล้วละ แต่ด้วยขีดความสามารถที่สูงของมัน ทำให้มันยังคงได้รับเลือกเข้าประจำการในกองทัพ สหรัฐ A-10 นี้เป็นเครื่องบินประเภทโจมตี ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่ ฉะนั้นภารกิจหลักของมันก็คือ ทำลายเป้าหมายภาคพื้นดิน






ในฉากเดิมเลย จะเห็นว่ามีเครื่องบินขนาดใหญ่ที่หน้าตาเหมือนเครื่องบินลำเลียงบินมา และทหารสหรัฐก็เรียกให้เครื่องบินลำนั้นยิงปกระสุนขนาด 105 มม. ลงมา เครื่องบินลำนี้คือ AC-130 จะบอกว่า เครื่องบินลำนี้ก็คือ C-130 แบกปืนใหญ่ดีๆนี่เอง(C-130 คือเจ้าลำที่จอดอยู่ที่ดอนเมืองละ)





เอาละมาถึงพระเอกของบล็อคนี่ละ มันเป็นเครื่องบินที่เพิ่งเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐมาร้อนๆเลย ชื่อของมันคือ F-22 Raptor สรรพคุณของมันเยอะเหลือเกิน
เพราะมันคือเครื่องบินขับไล่ที่มีคุณสมบัติ Stealth แบบแรกของโลก แถมยังทันสมัยสุด ๆ และรูปร่างก็สุดเท่ห์อีกด้วย อยากให้เมืองไทยซื้อมาใช้เร็วๆจัง แต่ด้วยราคา ลำละ 180 ล้านเหรียญ คงทำได้แต่ฝันสะละ - -



สุดท้ายละครับ ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆมากที่อดทนอ่านเรื่องที่น่าเบื่อไปนิด แต่ก็หวังนิดๆว่า บทความนี้อาจทำให้เพื่อนๆดูหนังเรื่องนี้สนุกยิ่งขึ้นนะ












วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

นานนานที

ก่อนอื่นแม้จะช้าไปหน่อย แต่ขอ พูดหน่อยละกัน
"สวัสดีปีใหม่นะเพื่อนๆ"
และก้อ วันนี้ก็เป็นวันเกิดไอพัทธ์ มันด้วย (4 ม.ค.)
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันหยุดวันสุดท้ายของการหยุดปีใหม่
เป็นไงกันบ้างเพื่อนๆ หยุดกันมา ก็เกือบ 10 วันได้ไปเที่ยวไหนกันบ้างนี่
สำหรับเราหยุดมาได้ 9 วัน(วันจันทร์โดดเรียนครับ^^)
จะบอกคำเดียวว่าใช้เวลาได้ ชิวมากมาย
ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง เว้นอย่างเดียวคือ เรื่องเรียน 55+
หวังว่าเปิดเรียนแล้ว เรายังจะพอจดจำอะไรๆ ได้บ้าง

หยุดมา 9 วัน 3 วันแรกเราไปเพลิดเพลินที่ "อุทยานแห่งชาติกุยบุรี" มา
จะบอกว่า ใครไม่ได้ไปค่ายนี้พลาดแล้วละ
เป็นค่ายที่ แบบ ชิวตอนรับวันหยุดปีใหม่เลย ได้ไปเดินป่าด้วยค่ายนี้
ตอนเดินขึ้น อาการก็เย็นสบายดีนะ ได้เดินลุยทางน้ำ เย็นสบายๆ
แต่พอขากลับเท่านั้นแหละ กลับตอนไหนไม่กลับ ดันมากลับ
เอาตอนบ่ายสอง แดดกำลังดีเลยละ - - (อารมณ์แบบ เดินเตะฝุ่น ที่ รด.)
แต่นั้นก็ไม่ขำเท่าไร เพราะคนที่กลัวแดดที่สุด น่าจะเป็นไอเด
ที่ร่วมเดินทางไปด้วย พี่แกเล่นเดินหลบแดด ตามพุ่มไม้ ตามลายทาง 55+
อ่อลืมบอกไป เพื่อนที่ไปด้วยก็มี เนท ไอซ์ ปอ เด จอย ปอม ตาล ขวัญ กีฟ
เอออ...แต่ที่สุดค่ายนี้ กลับมา น้ำหนักเราเพิ่มอีกละ -*- ไม่รุเป็นอะไร
ไปค่ายที่ไหนกลับมาน้ำหนักขึ้นตลอด แอบเซ็ง....

สุดท้ายอยากจะบอกให้เพื่อนรุว่า ตอนกลางคืน "กุยบุรีหนาวมาก" ^^

พอกลับมาจากค่ายปุ๊ป วันรุ่งขึ้น ก็ไปเล่นแบต
แหะๆ ไปเล่นคราวนี้แอบทำตัวผิด
เรื่องก็คือ นัดเพื่อนไว้ ว่า จะตีกันบ่ายโมง
แต่เราไปสนามตอนจะบ่ายสี่อะก็ขอโทษเพื่อนๆทุกคนด้วยนะที่มาช้า

พอมาวันพุธ ก็ออกจากบ้านไป นับดาว นับอะไรก็ไม่รู้นับถึงตีสี่ - -
เฮ่ออออ ใช้เวลาได้เปลืองมาก

หลังจาก นับดาวถึงตีสี่ แล้ว แปดโมงเช้าเราก็ต้องเดินทางไปชลบุรี 55+
(ได้ไปเที่ยวด้วยปีนี้..ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ไปสะแล้ว....)
ไปชล คราวนี้ ต้องไปนอนในโรงพยาบาลอะไม่รู้เป็นอะไรแต่ก็สบายดีนะ
ไปมาสามวัน นอนทั้งสามวันเลย ที่สำคัญนอนฟรี ^^
ที่จริงไม่ได้เป็นอะไรหรอกแค่บ้านเพื่อนที่ไปอยู่ด้วยมันอยู่ใน รพ. เลย
เพราะพ่อมันเป็น รอง ผอ. โรงพยาบาล เลยอยู่ฟรี อิอิ
สามวันที่ชล ได้เที่ยวมากมาย ไปดูทิฟานี่ โชว์มา
พระเจ้า.....ยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆสะอีก
จะบอกว่า มีอยู่คนนึง น่ารักมากมาย หน้าเหมือนยังกับ ปอย
จำได้เลยตอนนั้นเต้นเพลง เทลมมี คำเดียว...สุดยอดดด
พอตอนโชว์เส็ด กะจะไปขอถ่ายรูปสะหน่อย
แต่เอิ่ม....ตั้ง 40 บาทแหนะ...ไม่ถ่ายก็ได้เชอะ
วันต่อมา ได้ไป เกาะล้าน น้ำนี้อย่างใสอะ
เล่นๆอยู่มีปลาว่ายน้ำมาเล่นน้ำด้วย
แต่ไม่รู้คิดถูกหรือผิด ที่ไปเล่นทะเล ตอนหน้าหนาว หนาวได้ใจจริงๆ
เล่นได้สะพักก็เริ่มหิว เลยไปสั่งข้าวพัดกิน คือตอนนั้นสั่งไปเพราะหิวไง
เลยลืมดูราคา ได้ข้าวผัดหมูมาหนึ่งจาน ด้วยราคา 400 บาท เฮือกกกก
ข้าวผัดมื้อนี้ไม่ต้องใส่น้ำปลาเพิ่มเลย เค็มด้วยน้ำตาเรานี่ละ T_T
จบจากเกาะล้าน เราก็ไปเขาเขียว โห...คนเยอะได้อีกรถติดเป็นกิโล
กว่าจะได้เข้า เล่นเอาเหนื่อยเลย แต่สุดท้ายก็รู้สึกคุ้มอะ
เหมือนเราได้ย้อนเวลาเลย ย้อนไปเมื่อตอนเด็กๆ
ที่แบบอารมณ์ตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นสัตว์ต่างๆ
รู้สึกดีอะบอกไม่ถูกจริงๆ แนะนำนะเพื่อนๆ ลองไปสวนสัตว์กันดู
เพื่อจะได้สัมผัสอารมณ์แบบนั้นบ้าง หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสกันมานาน 55+

สุดท้ายนี้ ก็อยากจะ ขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยทนอ่าน
บทความที่เหมือนการบ่นๆของผมนะครับ สวัสดี........จบ

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

บทความแรก ของผม

อ่าได้เวลาสะที พอจะได้มีเวลาว่างกะเขาบ้าง เลยถือโอกาศนี้ เขียนบทความ ละบายอารมณ์ สะบทความละกันนะ


ปีๆ หนึ่งนี่มันช่างเร็วนัก

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Blog แรกของชีวิต

เพิ่งจะรู้ว่า Blog คืออะไรก็วันนี้ละครับ

เอาเป็นว่า Blog นี้ ถ้ามีอะไรจะติชม

สามารถติชมได้เต็มที่นะครับ พร้อมรับฟังคำแนะนำทุกคำครับผม